วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

8 วิธี ให้สาวๆมีเอวบอบบาง

1. รับประทานผักให้มาก ๆ
จากที่ใช้เวลาศึกษาถึง 10 ปี กับกลุ่มทดลองที่เป็นผู้หญิง 80,000 คน ทำให้ทราบว่า
ผู้หญิงกินเนื้อสัตว์เกินวันละ 7 มือ/อาทิตย์จะมีสิทธ์ลงพุงมากกว่า ผู้หญิงที่รับประทานผักบ่อยๆ
ถึงเท่าตัว เพราะฉะนั้น รับประทานผักให้มาก ๆ ให้ได้สัก 5 ครั้ง/วัน ไม่ได้ล้อเล่นนะคะ
เพราะคุณอาจเลือกรับประทาน ผักเป็นอาหารว่าง ระหว่างวันบ้างก็ได้ และสำหรับคนที่เกลียด
ผักจริง ๆ อาจจะเริ่มรับประทานแต่น้อย ๆ ก่อนก็ไม่ว่ากัน ส่วนเนื้อสัตว์ คุณก็ไม่จำเป็นต้อง
อดหรอกนะคะ เพียงลดประมาณลงบ้าง และรับประทานเนื้อสัก 2 - 3 มื้อ/อาทิตย์ก็พอค่ะ


2. รับประทานแต่เช้าและรับประทานบ่อย ๆ
หลายคนเข้าใจว่ารับประทานอาหารแค่ 2 มื้อ/วัน แล้วจะผอมกว่าคนที่รับประทานวันละ
3 มื้อปกติ คุณคิดผิดแล้วละค่ะ และถ้ายิ่งคุณเลือกรับประทานมื้อค่ำ เป็นมื้อที่ 2 ด้วยแล้ว
จะทำให้ยิ่งอ้วนไปกันใหญ่เลยค่ะ เพราะจากการศึกษาพบว่าคนที่รับประทานอาหารแต่เช้า
จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีตลอดทั้งวัน และมีโอกาสได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์
มากกว่า เพราะถ้าคุณรับประทานอาหารเช้า ก่อนเวลาเที่ยงคุณจะไม่หิวแน่นอน
แต่ถ้าคุณอดช่วงเช้า ก่อนเที่ยงคุณจะเริ่มหิวและอาจจะหาของขบเคี้ยวต่างๆมารับประทานเล่น
ซึ่งไม่มีประโยชน์ และทำให้อ้วนมากกว่าอาหารหลักอีกนะคะ ถ้ากลัวหิวก็รับประทานอาหารเช้า
และแบ่งอาหารออกเป็นมื้อย่อย ๆ โดยเลือกอาหารที่มีกากใยสูง และให้พลังงานมาก ๆ
เช่นผัก ผลไม้ ถั่วต้ม แบบนี้จะช่วยคลายหิวและทำให้หุ่นสวยได้ค่ะ


3. เดินให้ได้ทุกวัน
เพราะถ้าคุณปฏิบัติตามกฏข้างต้นทุกประการ แต่คุณเอาแต่นอนนิ่งหรือนั่งเฉยๆ ทุกวันล่ะก็
ที่ทำมาทั้งหมดก็เป็นอันสูญเปล่าเพราะเขาค้นพบมาแล้วว่า ผู้หญิงที่เดินอยู่เป็นประจำ
หน้าท้องจะเล็กกว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่กับที่ถึง 16 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นเดินให้ได้วันละ 30
นาที ไม่ยากค่ะ แรกเริ่มคุณอาจไม่ต้องเดินเยอะขนาดนั้น เพียงเดินให้บ่อยขึ้นกว่าปกติ
เช่น เปลี่ยนมาใช้บันไดแทนลิฟต์ หรือลองเดินไปรับประทานอาหารกลางวันไกลๆ ดูบ้าง


4. บริหารหน้าท้องและเพิ่มกล้ามเนื้อ
ก่อนนองลองซิตอัพสัก 15 ครั้ง และถ้ามีเวลาก็ออกกำลังกายบ้าง โดยจะเข้าฟิตเนสส์
เล่นแบดมินตัน หรือว่ายน้ำก็ได้ เพราะการออกกำลังกายทุกชนิด จะช่วยสลายให้ไขมัน
แปรสภาพเป็นกล้ามเนื้อ และยิ่งเรามีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นเท่าไรระบบเผาผลาญอาหารก็จะ
ยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น นี่เองประโยชน์ของการออกกำลังกาย โดยคุณอาจจะหาท่าบริหารง่ายๆ
ทำเองเมื่อกลับถึงบ้านจะยิ่งทำให้คุณหลับง่ายขึ้น ที่สำคัญเขาบอกว่า
ถ้าคุณบริหารกล้ามเนื้อส่วนบน เช่น แขนไหล่ แล้วเอวคุณจะดูเล็กลงไปด้วยค่ะ


5. รับประทานวิตามิน E
การศึกษาี้พบว่า นอกจากวิตามิน E จะช่วยป้องกันโรคหัวใจ ไข้หวัด และมะเร็งได้แล้ว
วิตามิน E ยังช่วยป้องกันหน้าท้องขยายได้ด้วย เพราะวิตามิน E นั้นมีสารต่อต้านอิซูลิน
อันจะทำให้เราอ้วนได้ค่ะ เพราะฉะนั้นลองรับประทานวิตามิน E สักวันละ 2
เม็ดเพื่อควบคุมน้ำหนักดูนะคะ (ข้อนี้ปรึกษาแพทย์ก่อนนะค่ะ)


6. เปลี่ยนนิสัยบอกใจตัวเองไม่ให้เครียด
เครียดเมื่อไรฟังเพลงคลาสสิก คุยกับเพื่อน หรือจะอ่านหนังสือดีๆ เพราะถ้าคุณเอาแต่
นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเก็บกดเวลาเครียดแล้ว ความเครียดตัวร้ายนี้จะไปเร่งฮอร์โมนคอร์ติซอล
(Cortisol) ให้ทำงานมากขึ้น และเมื่อเรามีฮอร์โมนตัวนี้มากขึ้นเมื่อไร
เจ้าฮอร์โมนตัวนี้ก็จะส่งไขมันของเราไปกองที่หน้าท้องจนหมด อันจะทำให้เราพุงยื่น
เพราะฉะนั้น ถ้าเครียดจงหลับตาสูดหายใจลึก ๆ ทำใจให้สบายจะดีกว่านะคะ


7. คบเพื่อนให้มาก ๆ
อย่าเพิ่งงงนะคะ เพื่อนธรรมดานี่แหละค่ะ คนที่คุณสามารถพูดคุยหรือปรึกษาได้
เพราะการมีเพื่อนไม่ว่าเพื่อนวัยเรียนหรือเพื่อนร่วมงาน จะทำให้บรรยากาศรอบตัวของคุณ
เครียดน้อยลง ลองคิดดูว่าถ้ามาทำงานอย่างเดียว วันๆเจอแต่งานหนักแถมพบแต่เจ้านาย
ทั้งวันละก็ คุณคงเครียดหนักแน่ๆ แล้วทีนี้คุณก็อาจจะใช้วิธีกินเพื่อเป็นการผ่อนคลายก็ได้
เพราะฉะนั้นมีเพื่อนไว้คุยเวลาเครียดหรือเหงาบ้างก็ดีค่ะ โดยเฉพาะมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ใน
การลดน้ำหนักเหมือนกัน จะยิ่งทำให้คุณลดน้ำหนักได้ดีขึ้นและสนุกขึ้น
คุณอาจจะแข่งกันออกกำลังกาย ถ้าใครลดน้ำหนักได้มากที่สุดจะได้รางวัล
แบบนี้การลดน้ำหนักจะยิ่งดูมีสีสันและสนุกขึ้นค่ะ


8. ลดละเลิกแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด
ที่เวลาเศร้าใจหรือดีใจทีไรมักฉลองด้วยของมึนเมาโดยเฉพาะเบียร์ เพราะเบียร์จะทำให้
หน้าท้องคุณ ยื่นได้อย่างน่าเกลียดแต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ให้ดื่มแต่น้อย
หรือจะเปลี่ยนมาดื่มไวน์แทนก็ไม่เลวเลยค่ะ เพราะไวน์จะช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ดี
แต่ถ้าจะฉลองกันในราคาประหยัดและมีประโยชน์แล้วละก็
ฉลองกันด้วยผักสด ๆ น้ำผลไม้เย็น ๆน่าจะดีกว่านะคะ

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

ดูแลหุ่นอย่างไรให้ฟิตและเฟิร์ม

ปัญหากวนใจของสาวๆ หลายคนก็คือเรื่องรูปร่าง บางคนพยายามควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย
กันสารพัดวิธี แต่เจ้าพุงยื่นๆ ต้นแขนใหญ่ๆ ก็มักจะโผล่มาเป็นอุปสรรคความงามกันอยู่เรื่อย

ไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะ รอบเอว
ต้นแขน ต้นขานั้นจัดว่าเป็นส่วนเกินที่กำจัดยากที่สุด
บางคนถ้ามองรูปร่างโดยรวมก็ไม่ได้อ้วนอะไร แต่ก็ต้องมานั่งกลุ้มใจกับส่วนเกินพวกนี้

เคล็ดลับสำหรับการดูแลหุ่นให้ฟิตและเฟิร์มอยู่ตลอดนั้น จึงต้องอาศัยวินัย และกำลังใจที่ดี
หลักการง่ายๆ ก็คือ หากคุณรับประทานอาหารที่ให้พลังงานเกินกว่าที่คุณต้องการ
พลังงานส่วนเกินเหล่านั้นก็จะไปสะสมตัวอยู่ในรูปของไขมันตามส่วนต่างๆ
ดังนั้น หากคุณต้องการรักษารูปร่างให้สมส่วน คุณก็ต้องควบคุมการรับประทานอาหาร
และการออกกำลังกายให้สมดุล ห้ามตามใจปาก ห้ามขี้เกียจ หรือผัดวันประกันพรุ่งเป็นอันขาด
จำไว้ว่า การโหมลดน้ำหนักเป็นครั้งคราวนั้นไม่ช่วยให้คุณมีรูปร่างดีได้นาน สุดท้ายหากนิสัยเดิมๆ
กลับมา ก็คงไม่แคล้วกลับมาอ้วนอีก หรือบางคนอาจจะต้องเผชิญกับภาวะ Yo-Yo Effect
ที่ทำให้คุณอ้วนกว่าเดิมอีก

กฎทองของการรักษาหุ่นก็คือ ต้องดูแลการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายให้สมดุลกับ
ความต้องการของร่างกายคุณ จำไว้ว่าอัตราการเผาผลาญพลังงานของแต่ละคนอาจจะต่างกันไป
และเมื่อเวลาหรือวิถีชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงไป อัตราการเผาผลาญพลังงานก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วย
หากคุณรู้ตัวว่าเป็นพวกสาวออฟฟิศ วัน ๆ ทำงานนั่งโต๊ะ ไม่ค่อยได้ใช้พลังงานสักเท่าไร
ก็ควรจะเลือกรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง แต่ให้พลังงานต่ำ
ที่สำคัญ ควรหาเวลาไปออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

หากอยากฟิตหุ่นเฉพาะส่วน อาจบริหารร่างกายเฉพาะส่วนเป็นพิเศษ
เพื่อความฟิตและเฟิร์ม หากทำเช่นนี้ได้เป็นกิจวัตร หุ่นฟิตและเฟิร์มก็ไม่ไกลเกินเอื้อม


เคล็ดลับสกัดความอ้วน

เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้พอดีกับความต้องการใช้พลังงานของร่างกาย

ไม่ควรอดอาหาร แม้จะต้องการลดความอ้วน
เพราะจะทำให้หิวจัด จนรับประทานอาหารเกินความจำเป็นในมื้อต่อไป

ค่อย ๆ เคี้ยวอาหารช้า ๆ ให้ละเอียด อย่าทำกิจกรรมอื่นในระหว่างรับประทานอาหาร
เพราะจะทำให้คุณไม่รู้ตัวว่ารับประทานอะไรไปบ้าง ทำให้ได้รับอาหารเกินที่ต้องการ

เน้นอาหารประเภทที่มีไขมันต่ำ กากใยสูง โดยเฉพาะพวกเนื้อปลา ผัก ผลไม้

เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยวิธีต้ม หรือลวก แทนการทอด หรือผัด
เพราะน้ำมันจากการปรุงอาหารอาจเป็นตัวการที่ทำให้คุณอ้วน

อาหารที่มีพริกไทย เครื่องเทศเป็นส่วนผสม ช่วยกระตุ้นระบบการย่อยและเผาผลาญไขมันได้

หลีกเลี่ยงอาหารกรุบกรอบ ขนมหวาน หากหิวระหว่างมื้อ
ให้รับประทานผลไม้ที่ไม่หวานมาก แต่มีเส้นใยสูง เช่น แอ๊ปเปิ้ล แก้วมังกร สับปะรด

ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่น้อยกว่า 8 – 10 แก้วต่อวัน ควรดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนอาหารทุกมื้อ

ควรระวังน้ำตาลที่แฝงมาในอาหารและเครื่องดื่ม น้ำตาลที่อยู่ในกาแฟเย็น
หรือน้ำอัดลมยี่ห้อโปรด น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้กล่อง อาจเป็นตัวการที่ทำให้คุณอ้วนโดยไม่รู้ตัว

ช่วงก่อนมีประจำเดือน ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการอยากอาหารผิดปกติ ดูตัวบวมๆหรือดูพุงยื่นๆ
ซึ่งเป็นเพราะระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงก่อนมีประจำเดือน ควรระวังการรับประทานอาหารให้ดี
หรือแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดรุ่นใหม่ที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนโดสต่ำ
ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับฮอร์โมนในร่างกาย
ซึ่งช่วยลดปัญหาอาการไม่พึงประสงค์ก่อนมีประจำเดือนได้

หมั่นออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 4 ครั้ง ครั้งละ 30-45 นาที ต่อเนื่องกัน
เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกิน

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

เคล็ดลับรูปร่างดีของแคทลียา อิงลิช


ฟิตเฟิร์มแบบแคท
เมื่อเอ่ยชื่อแคท หลายคนคงคุ้นชินกับภาพหญิงสาวใบหน้าสวยคม ผู้มีรูปร่างสูงโปร่งสมส่วนอย่างคนมีสุขภาพดี
แต่กว่าที่เธอจะดูสวยฟิตเฟิร์มได้ขนาดนี้ เธอต้องเคร่งครัดกับตัวเองมากทีเดียวค่ะ

กินให้ถูกวิธี :
“แคทเป็นคนที่ถ้าทำงานเหนื่อยแล้วจะกินไม่หยุด ถ้าไม่ควบคุม น้ำหนักจะขึ้นง่ายมาก
โชคดีที่ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และอาหารการกินอยู่แล้ว จึงรู้วิธีกินที่ถูกและดีต่อสุขภาพ
เช่น ไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ ไม่กินแป้งขัดขาว ไม่ว่าจะเป็นข้าว ขนมปัง แคทเน้นกินผักผลไม้เยอะๆ ค่ะ”

ควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ :
“ช่วงที่น้ำหนักเพิ่มขึ้น แคทก็เคยลดความอ้วนเหมือนกัน แต่วิธีของแคทคือการกินอาหารที่ทำให้สุขภาพดี
ไม่ใช่ไม่กินอะไรเลย เพราะร่างกายยังต้องการสารอาหารต่างๆ เพื่อมาบำรุงร่างกายอยู่
ถ้าไม่กินอะไรเลยร่างกายจะเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคหวัด หรือภูมิแพ้ ที่สำคัญสุขภาพจะย่ำแย่ในระยะยาว
และที่สำคัญแคทไม่เคยแตะยาลดความอ้วนเลย เพราะมันไม่ต่างจากสารเคมีที่เรากินเข้าไปสะสมในร่างกาย
ทำให้เกิดสารพิษ แต่แคทจะกินอาหารให้พอเหมาะมากกว่า กินผักผลไม้เยอะๆ เลี่ยงของทอด ของมันทุกชนิด
และกินมื้อเย็นเบาๆ เช่น สลัด กล้วย และโยเกิร์ตค่ะ”

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ :
“เมื่อก่อนแคทออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน ด้วยการเต้นแอโรบิคทุกวันๆ ละ 1 ชั่วโมง
แต่หลังจากได้เป็นนักร้องทำให้ได้เต้นเยอะมาก เหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัว
แต่ปกติแคทจะหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมออยู่แล้ว อย่างน้อยอาทิตย์ละ 4 ครั้ง
ซึ่งความจริงแล้วเราสามารถที่จะออกกำลังกายได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องเลือกว่าเราต้องเข้าฟิตเนสเท่านั้น
อย่างแคทก็จะพยายามทำอะไรก็ได้เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว
อย่างเวลาไปทำงานถ้าออฟฟิศอยู่แค่ชั้น 2-3 แคทจะเดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟต์”


ใจเบิกบาน งานสำเร็จ
นอกจากจะมีรูปร่างสมส่วนและสุขภาพดีจนใครๆ ต้องอิจฉาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ
แคทเป็นคนที่สนุกสนานร่าเริงอยู่ตลอดเวลา บุคลิกนี้เธอบอกว่าเกิดจากการหมั่นบริหารใจอยู่เป็นประจำนั่นเองค่ะ

มองโลกในแง่ดี :
“แคทเป็นคนเฮฮาและมองโลกในแง่ดีมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ชอบทำให้คนอื่นหัวเราะ
เพราะบรรยากาศในการทำงานส่วนใหญ่จะเครียดอยู่แล้ว แคทเลยหาวิธีทำให้ทั้งตัวเองและคนอื่นสนุกดีกว่า
ถือเป็นวิธีในการดูแลสุขภาพจิตใจของเราไปในตัวด้วย เพราะแคทเคยอ่านเจอในหนังสือมาว่า
การหัวเราะทุกวันทำให้สุขภาพจิตของเราดี”

พักผ่อนคลายเครียด :
“ทำงานเสร็จแคทจะรีบกลับบ้าน และไม่เอาความเครียดจากงานกลับมาด้วย
เมื่ออยู่ในโลกส่วนตัวก็อยากให้เวลากับตัวเองเต็มที่ จะทำในสิ่งที่ชอบและผ่อนคลาย
เช่น นั่งเล่น นอนเล่น ดูทีวี ปักกางเกงยีน อ่านหนังสือ และทุกอย่างที่อยากทำและสบายใจค่ะ”

อุปสรรคคือบททดสอบ :
“แคทว่าทุกคนล้วนเจออุปสรรคในชีวิตแทบทั้งนั้น สำหรับแคทจะถือว่าอุปสรรคคือบททดสอบที่เราต้องพยายาม
ผ่านไปให้ได้ และถือว่ามันเป็นประสบการณ์ในชีวิต ทำให้ได้รู้วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
และเมื่อเราผ่านอุปสรรคนั้นได้เราก็จะมีความรู้สึกโล่ง และมีความรู้สึกที่ดีค่ะ”

หากเคร่งครัดกับตัวเองจนเป็นกิจวัตร เรื่องที่จะเปลี่ยนตัวเองให้สดใส
และฟิตเฟิร์มสุขภาพดีแบบแคทลียา อิงลิช คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ที่มา : cheewajit.com

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552

"เคล็ดลับ" กินง่ายๆ แต่ก็ยังผอม

สาวๆ ไม่ค่อยจะมีเวลามานั่งเลือกอาหารเพื่อสุขภาพกันเท่าไร บางทีงานก็เยอะ
รีบๆ เข้าเราก็ต้องคว้าอะไรใกล้มือนี่ล่ะมาประทังชีวิตกันไปก่อน
แต่ไม่ต้องกลัว ถึงจะกินแบบง่ายๆ ก็ยังคุมแคลอรีได้ด้วย


มื้อเช้า
มื้อเช้าของสาวไทยเรามีสองแบบ ถ้าไม่กินข้าวแกงก็ไม่กินเลย แต่ที่จริงเราสามารถทำอาหาร
เช้าที่เร็วและดีกินเองได้ที่บ้าน เช่น น้ำส้มสักแก้ว กับขนมปังโฮลวีต 2-3 แผ่น
นอกจากจะหนักท้องแล้ว คุณค่าอาหารที่ได้เทียบเท่ากับข้าวทั้งจานเลยทีเดียว


มื้อสาย
ช่วงสายเป็นมื้อที่ไม่ควรจะกินอะไรหนักๆ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมง เราก็ต้องกินมื้อเที่ยงอีกแล้ว
ของจุบจิบรองท้องที่คนไทยเราฮิตติดปากกันนักหนามักจะเป็นพวกลูกชิ้นปิ้ง ผลไม้ดอง
ซึ่งแคลอรีสูงลิ่ว วิธีเลี่ยงง่ายๆ คือให้คุณหาซีเรียลบาร์ติดโต๊ะไว้กินรองท้องเวลาหิว


มื้อเที่ยง
มื้อนี้ล่ะตัวร้ายสำหรับสาวทำงาน เพราะเวลาพักมีน้อย หลายคนจึงหาทางออกด้วยการฝาก
กระเพาะไว้กับฟาสท์ฟู้ดจำพวกแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นวัตถุต้องห้ามสำหรับลำไส้ของสาวๆ
ที่กำลังไดเอท แต่โชคดีที่เราไม่จำเป็นต้องกินแต่แฮมเบอร์เกอร์ เพราะในร้านแฮมเบอร์เกอร์
ก็ยังมีเมนูอื่น เช่น สลัดหรือแซนวิชปลา แซนด์วิชจากขนมปังโฮลวีต


ระหว่างวัน
เวลาง่วงๆ ซึมๆ เครื่องดื่มแก้ง่วงที่เรามักจะนึกถึงก็คือกาแฟ ยิ่งถ้าเป็นลาเต้แก้วโตๆ ใส่เพียบ
แถมวิปครีมปะหน้าคู่กับคุ้กกี้อีก 2-3 ชิ้น สาวๆยิ่งกินจนลืมสะกดคำว่าอ้วนไปเลย..เลิกค่ะ
เพราะสามารถอร่อยคล้ายๆ อย่างนั้นได้ในแคลอรี่ที่ต่ำกว่าด้วยชาร้อนกับคุ้กกี้ธัญพืช
ช่วยแก้ง่วงได้พอๆ กันแต่แคลอรี่ต่างกันฟ้ากับเหว


มื้อดึก
นี่คือมื้อที่อันตรายกับความสเลนเดอร์มากที่สุด เพราะมีเวลาให้ชิมนั่นชิมนี่ได้เหลือเฟือ
แต่กินเข้าไปไม่เท่าไรก็ได้เวลานอนซะแล้ว ถ้าคุณเกิดหิวขึ้นมากลางดึก
ขอแนะนำเป็นนมแบบไขมันต่ำอุ่นๆ สักแก้ว จะช่วยให้หลับสบายขึ้น
แถมยังมีไขมันแค่ 3 กรัมเท่านั้น ดีกว่าต้มมาม่าใส่ใข่กันเป็นกองเลย

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

10 เคล็ดลับกำจัดพุง

1. ร่างกายไม่สามารถเลือกกำจัดเฉพาะไขมันที่พอกอยู่ที่พุงได้หรอกครับ
คุณต้องกระตุ้นการเผาผลาญไขมันทั้งตัว ทำได้ง่าย ๆ โดยเพิ่มกิจกรรมเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน
เช่น เดินขึ้นลงบันไดแทนขึ้นลิฟต์ หรอจอดรถไกลๆ แล้วเดินเร็วๆ
เพื่อให้ทันเข้าประชุม หรือซื้อน้ำดื่มขวดใหญ่สัก 2 ขวดหิวไว้ให้แขนทั้งสองข้างก่อน
เริ่มเดินช็อปปิ้งกับหวานใจ และหากเธอทำงานอยู่ใกล้ ๆ ลองงดการโทรศัพท์
แล้วใช้วิธีเดินไปหาแทน จะได้เผาผลาญไขมันที่สะสมให้เป็นเพลิงรักของคุณเสีย

2.งานวิจัยยืนยันมาว่าไขมันจะสลายตัวได้ง่ายหากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เย็น
ดังนั้นช่วงลดหน้าท้อง อาจต้องงดอบซาวนา หรือสตรีมสักเดือน
หันมาอาบน้ำเย็นหลังการออกกำลังกายแถมยังได้ช่วยชาติประหยัดพลังงานอีกต่างหาก

3. เหล้าและเครื่องดื่มบำรุงกำลัง
มีผลทำให้พุงคุณป่องออกมาได้ลงมือจัดการเกี่ยวกับตัวปัญหาตั้งแต่วันนี้กันเลยครับ

4. เข้านอนเร็ว ดับไฟ งดดูทีวีก่อนนอน ฝึกทำสมาธิเพื่อการหลับสมบรูณ์ที่สุด
เพื่อโกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมาช่วงหลับ เป็นกุญแจสำคัญที่เร่งการเผาผลาญไขมันได้อย่างราบคาบ

5. ทานมื้อเย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะมีผลต่อการหลั่งโกรทฮอร์โมน
เพราะฉะนั้น วางแผนกินมื้อเย็นให้เร็วขึ้น งดปาร์ตี้และบุฟเฟต์รอบดึก
เผลอๆสิ้นเดือนอาจเหลือค่าขนมมาซื้อกางเกงตัวใหม่ ต้อนรับเอวที่กระชับของคุณได้

6. ควบคุมการทำงานในช่องปากของคุณในแต่ละมื้อ การรับประทานอาหารช้า ๆ
จะช่วยควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ และควรเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลายครบถ้วนทุกมื้อถ้าเป็นไปได้

7. อย่ามัวแต่บริหารหน้าท้องอย่างเดียว คุณต้องกระตุ้นการเผาผลาญไขมันทั้งตัวด้วย
การเน้นกล้ามเนื้อท้องอาจทำให้หน้าท้องคุณกลายเป็นซิกแพ็ก
แต่ถ้าไขมันไม่หายไปซิกแพ็กก็อาจเหลือแค่แพ็กเดียว ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า
การเล่นกล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกเป็นการกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุด

8. ไม่ต้องถึงกับฟิตหน้าท้องทุกวันหรอกครับ ลองจัดโปรแกรมฟิตกล้ามเนื้อหน้าท้อง 2-3 เซ็ต ไว้สักสองวันต่อสัปดาห์
สลับ กับการเล่นส่วนอื่น ๆ ด้วย การเล่นที่เหมาะสมอาจทำให้กล้ามเนื้อมีเวลาฟอร์มตัวได้ดีกว่า และทำให้กล้ามท้องเกิดได้เร็วกว่าด้วยครับ

9. จุดอ่อนที่ทำให้พุงเกิดอยู่เสมอคือ คุณมีท่ายืนหลังค่อม ทำให้พุงดูเป็นกองไขมันน่าเกลียดน่ากลัว แม้จะไม่อ้วนก็ตามที การยืนหลังตรง อกผาย ไหล่ผึ่ง จะกระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้องให้ตึงตัวตลอดเวลา ฝึกยืน เดิน และออกกำลังกายในท่าตรงหลังเสมอ จะทำให้คุณสมาร์ตทั้งตัวครับ ไม่ใช่แค่พุง

10. ท่าบริหารหน้าท้องที่นิยมกันมากที่สุดก็คือ ท่านอนยกขาหนีบ เท้าลอย ยกศีรษะ เรียกว่า Abs Crunch with Leg Lift ถ้าให้ทันสมัยและเวิร์กยิ่งขึ้น ก้ต้องทำบนลูกบอลออกกำลังกาย

ที่มา นิตยสาร Men'sHealth

วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2552

เทคนิคควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก

สาวๆ หลายคนหรืออาจจะรวมไปถึงหนุ่มๆ บางคนเป็นกังวลและพยายามอย่างหนักหน่วงกับการควบคุมอาหาร
เพื่อลดน้ำหนักอยู่ล่ะสิ วันนี้เรามีความรู้และเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกัน

พยายามกินมื้อเช้าทุกวัน จำไว้ว่า การกินอาหารเช้าสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันไม่ให้อ้วนง่าย
ลดน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่ไม่กินอาหารเช้า และสำหรับคนที่ลดแล้วก็จะคงน้ำหนักตัวได้ง่ายกว่าด้วย
ที่สำคัญอาหารเช้าก็ไม่ควรเป็นอาหารที่อุดมด้วยไขมัน แต่ควรเลือกจากอาหารหลัก 5 หมู่
เช่น ข้าวต้มเครื่อง โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ตามด้วยนม ผลไม้สด หรือน้ำผลไม้แท้ หรืออาหารง่ายๆ

กินอาหารให้เป็นเวลาและออกกำลังกายสม่ำเสมอ อันนี้คงไม่ต้องบอกนะว่าทำไม มันจะช่วยยังไง

คุมสัดส่วนอาหาร มื้อไหนกินเยอะก็ลดมื้อถัดไป หรือใช้แรงให้มากขึ้น ออกกำลังกายให้มากขึ้น
หรือวันต่อไป กินน้อยลง แคลอรีที่ได้โดยเฉลี่ยต่อสัปดาห์จะได้ไม่มากเกินไป

หลักการง่ายๆ ที่นักกำหนดอาหารอาหารแนะนำไว้ ก็คือ ให้กินข้าวหรือเส้นหรือแป้ง 1/4
เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ 1/4 กินผัก1/2 ของจาน แซมด้วยผลไม้และผลิตภัณฑ์นมตบท้าย
หรือจะใช้เป็นอาหารระหว่างมื้อก็ได้ ระบบย่อยจะได้ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

หัดใส่ใจอ่านข้อมูลโภชนาการที่มาพร้อมกับฉลากอาหารบ้าง
อาหารสำเร็จรูปส่วนใหญ่จะบอกจำนวนแคลอรี และปริมาณสารอาหารต่างๆ ให้ทราบอยู่แล้ว

ตามหลักเกณฑ์ในการลดน้ำหนักมีอยู่ว่า ถ้าลดเร็วก็เพิ่มเร็ว เพราะเวลาลดได้ก็จะขาดวินัยในการกิน
โดยทฤษฏีบอกว่า ถ้าลดพลังงานได้วันละ 500 กิโลแคลอรีจากที่รับประทานปกติ
จะช่วยลดน้ำหนักได้สัปดาห์ละ 1/2 กิโลกรัม แต่ถ้าไม่อยากจะรีบก็อาจลดแคลอรีวันละ 100 กิโลแคลอรี
ก็จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้แบบสบายๆ แต่อาจต้องใช้นานกว่า ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
แต่ถ้าทำได้ทั้งปีล่ะก็ จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ประมาณ 4.5 กิโลกรัม ซึ่งดีต่อสุขภาพของเราในระยะยาว

สาเหตุของการควบคุมน้ำหนักไม่ได้นั้น เป็นเพราะขาดความเสมอต้นเสมอปลาย ขาดวินัย
เพลิดเพลินกับการกินชนิดกู่ไม่กลับ แต่ที่จริงการคุมน้ำหนักนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด

หัวใจสำคัญของการลดน้ำหนักก็คือ มีความมุ่งมั่นจริงจัง
ไม่อย่างนั้นแล้วต่อให้โปรแกรมลดน้ำหนักนั้นๆ ดีขนาดไหนก็ช่วยคุณไม่ได้

แหล่งข้อมูล: Health & Cuisine

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552

แนะสตรีอยากลดน้ำหนัก ต้องออกกำลังกาย 55 นาที

ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐศึกษาพบว่า สตรีที่ต้องการลดน้ำหนักจะต้องออกกำลังกายวันละ 55 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน
จึงจะได้ผลและสามารถรักษาน้ำหนักตัวไม่ให้กลับขึ้นมาอีก

คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยพิทสเบิร์กเผยในวารสารอินเทอร์นัลเมดิซีนว่า ทดลองให้อาสาสมัครสตรีน้ำหนักตัวเกิน
และสตรีอ้วนรวม 200 คน กินอาหารวันละ 1,200-1,500 แคลอรี
โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย 4 กลุ่มเข้าโครงการออกกำลังกายที่แตกต่างกัน หลังจากผ่านไป 6 เดือนพบว่า
ทุกกลุ่มสามารถลดน้ำหนักได้ร้อยละ 10 แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ได้
ยกเว้นคนที่ออกกำลังกายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 275 นาที หรือวันละ 55 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน

ผู้เชี่ยวชาญในอังกฤษให้ทัศนะต่องานวิจัยชิ้นนี้ว่า เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า
หากต้องการรักษาน้ำหนักตัวที่ลดลงแล้วให้คงที่จะต้องออกกำลังกายมากกว่า
ทางการอังกฤษแนะนำว่าหากอยากมีสุขภาพแข็งแรงให้ ออกกำลังกายวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน
ปัจจุบันผู้ใหญ่ชาวอังกฤษมีน้ำหนักตัวเกินหรืออ้วนประมาณ 2 ใน 3
คาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 9 ใน 10 ภายในปี 2593 งานวิจัยส่วนใหญ่แนะว่า
การออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมปริมาณแคลอรีเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก
แต่คนส่วนใหญ่ที่ควบคุมอาหารมักไม่สามารถรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ได้
งานวิจัยล่าสุดนี้จึงยืนยันว่า การออกกำลังมาก ๆ เป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในเรื่องนี้

แหล่งข่าว ไอเอ็นเอ็น นิวส์

วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552

เคล็ดลับหุ่นดีของสาวทันสมัย

สาวๆ ที่มีรูปร่างท้วมทั้งหลายคงจะรู้สึกแปลกใจกันใช่ไหมคะ เวลามองไปทางไหน ทำไมสมัยนี้ผู้หญิงส่วนมาก
ถึงได้รูปร่างดี ผอมเพรียวเป็นนางแบบกันไปซะหมด แล้วก็พลอยคิดกันไปว่าสาวๆ เหล่านั้นช่างโชคดีจังเลยนะ
ทานอะไรเข้าไปก็ไม่อ้วนสักที ก็จริงอยู่...ที่ว่าบางคนอาจโชคดีแบบนั้นนะคะ
แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเรารู้จักเลือกที่จะทานอาหารดีๆ ผู้หญิงเราทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะสวยและรูปร่างดีได้เหมือนกันค่ะ
เคล็ดลับที่เอามาฝากต่อไปนี้ รับรองเลยว่าต้องช่วยบรรดาคุณผู้หญิงทั้งหลายได้ไม่มากก็น้อย



อันดับแรก


เราควรทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อค่ะ ซึ่งแต่ละมื้อต้องพยายามทานอาหารประเภทแป้งให้น้อยที่สุด
โดยเน้นไปที่ผักและผลไม้จะดีมาก ไม่ทานจุบจิบระหว่างมื้อ เพราะนี่เป็นตัวการสำคัญของความเจ้าเนื้อ
และที่ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือ หลังหกโมงเย็นไปแล้ว คุณต้องคิดว่าหมดเวลาในการทานอาหารแล้ว
แต่ถ้าเกิดหิวขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ ทางเลือกที่เหมาะสมก็คือผลไม้ที่ไม่หวานจัด หรือนมไขมันต่ำสักแก้ว น่าจะดีที่สุดค่ะ


ข้อต่อมา
เวลาจะทานอะไรก็ตาม ต้องพยายามทานอย่างช้าๆ ใจเย็นๆ พยายามเคี้ยวให้ได้อย่างน้อย 10 ครั้งต่อ 1 คำ
ข้อนี้นอกจากจะทำให้เราอิ่มเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยเรื่องระบบขับถ่ายด้วยนะคะ
พอระบบขับถ่ายดี ผิวพรรณก็สดใสตามมาด้วยค่ะ




ข้อสาม


สาวๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นของโปรด แต่เป็นศัตรูตัวร้ายในการลดน้ำหนักของเรา นั่นก็คือ
อาหารฟาสต์ฟู้ดและน้ำอัดลม หรือถ้าใครที่ชอบดูหนังบ่อยๆ ก็คงจะอดไม่ได้ที่จะซื้อข้าวโพดคั่วไปทานในโรงหนัง
ซึ่งจะต้องทำใจหลีกเลี่ยงให้ได้ เพราะเจ้าข้าวโพดคั่วนี่แหละเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง
แต่การดูหนังเป็นกิจกรรมที่เราไม่ได้ออกแรงอะไรเลย ซึ่งถ้าทานเข้าไปมาก ก็จะเกิดการสะสมของพลังงาน
และอีกอย่างที่สาวๆ กลัวเป็นที่สุดคือ เซลลูไลต์นั่นเอง!


ที่สำคัญมากอีกหนึ่งข้อ


สำหรับซัมเมอร์นี้ก็คือ ต้องตัดใจจากผลไม้ต้องห้ามที่มาแรงในช่วงหน้าร้อน นั่นก็คือ ทุเรียนและมะม่วงนั่นเอง
แล้วถ้าผลไม้ 2 ชนิดนี้มาพร้อมกับข้าวเหนียวมูนด้วยล่ะก็ อันนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ
แคลอรี่ล้นหลามอย่าบอกใครเชียว ทานเข้าไปแล้ว มีหวังต้องไปเริ่มนับ 1 ในการลดน้ำหนักใหม่แน่ๆ